วันจันทร์ที่ 30 มีนาคม พ.ศ. 2558

ประโยชน์ของการนอนเร็วก่อน 4 ทุ่ม

การนอนเร็วขึ้นก่อน4 ทุ่ม จะช่วยให้มีสุขภาพดีขึ้นถึง 9 ประการ...!!ดังนี้
1. สมองสร้างเคมีฯที่มีประโยชน์กับอวัยวะต่างๆ ของร่างกาย สมองเป็นส่วนสำคัญในการแจกงานให้อวัยวะต่าง ๆ แม้แต่เวลานอนก็ยังทำให้ร่างกายได้รับ เคมีนิทรา (เมลาโทนิน), เคมีสุข (ซีโรโทนิน),ฮอร์โมนเพศและเคมีหนุ่มสาว(โกรทฮอร์โมน)แถมยังมีเคมีบำรุงออกมา ควบคุมระบบในตัวเราให้ทำงานราบรื่น ตื่นขึ้นมาอย่างสดชื่น ทำให้ดูอ่อนเยาว์ สร้างเกราะป้องกันอาการป่วยได้ด้วย
2. สมองมีความจำดีขึ้นการศึกษา จากสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน (APA) ระบุว่า คนที่นอนหลับได้แค่ราว 4 ชั่วโมงต่อคืน ติดต่อกันนาน ๆ มีผลต่อความจำและสมาธิมากขึ้น นั่นก็เพราะเวลาเรานอน สมองจะมีกลไกช่วยจัดระเบียบคล้ายกับการแยกอีเมลขยะออกไป แต่ถ้าเราอดนอน เราจะรู้สึกมึน ลืมง่าย หรือไม่ก็ลิ้นพันกัน คิดอย่างพูดอย่าง
3. คุมความดันโลหิตได้ การนอนหลับเร็ว จะช่วยให้ระบบประสาทอัตโนมัติทั้งหลาย และกลไกทางชีววิทยาที่เป็นเหมือนฟันเฟืองขนาดจิ๋วทำงานซับซ้อนช่วยควบคุม หัวใจ และความดันโลหิตให้สงบลง ไม่แกว่งขึ้นลงง่ายเหมือนกับตอนตื่นนอน

4. ร่างกายได้ซ่อมแซมส่วนสึกหรอการนอนไวช่วยซ่อมแซมร่างกายที่สึกหรอ ช่วยให้สมองได้พักผ่อน กล้ามเนื้อคลาย ตัว หัวใจสงบขึ้น ความดันลดลง
5. ได้ล้างพิษ เวลาที่เรานอนจะเป็นช่วง เวลาที่อวัยวะอย่าง ตับ ไต ลำไส้ ซึ่งเป็นอวัยวะที่ช่วยล้างพิษทำงานได้ดีขึ้น
6. ไม่อ้วนง่าย การนอนเร็วช่วยคุมน้ำหนัก ตัวได้ดีกว่า อีกทั้งยังกระตุ้นเตาเผาใน ร่างกายให้ทำงานได้ดี ช่วยให้ไม่อ้วนง่าย ไม่สร้างเคมีเก็บไขมันมากด้วย
7. มีสุขภาพดีขึ้นถ้าเรานอนให้เร็วขึ้น เรา จะได้นอนอย่างเต็มอิ่ม ร่างกายและสมอง ได้พักผ่อน ความจำดี มีสมาธิ มองอะไร ก็มีความสุขได้ง่ายขึ้น
8. โรคไม่กำเริบ การนอนไวไม่เสี่ยงต่อโรค กำเริบโดยเฉพาะโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง ความดันสูง เบาหวาน ภูมิแพ้ โรคเครียดซึมเศร้า และโรคมะเร็ง
9. ชะลอความแก่ นอนตั้งแต่หัวค่ำ เพราะ แค่นอนก็ช่วยเสริมสร้างความหนุ่มสาว และช่วยให้หลับสนิททั้งหลายไม่ทำร้ายร่างกายก่อนวัยอันควร จึงป้องกันความเสื่อมชรา
*********************************************

วิธีการเพาะเห็ดฟางในตะกร้าพลาสติก [อาชีพทำเงิน]

วิธีการเพาะเห็ดฟางในตะกร้าพลาสติก [อาชีพทำเงิน]

การลดกรรม45อย่าง‬

‪#‎การลดกรรม45อย่าง‬ (ควรอ่านเป็นอย่างยิ่ง)
กรรมที่คนเราก่อไว้...ทั้งชาตินี้ และชาติที่แล้วจะต้องชดใช้ เรื่องเล่ากันว่า คนเราเกิดมานั้นเพื่อชดใช้กรรม ทำกรรมไว้อย่างไรก็ชดใช้จนหมดสิ้นก็จะหลุดพ้น เป็นอีกวิถีทางหนึ่งที่ชาวพุทธ ประพฤติ ปฏิบัติตามรอยพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...สำหรับกรรมนั้นมีอะไรบ้างวันนี้จะยกมาทั้งหมด 45 อย่าง กรรมที่ทำจะเป็นวิธีการลดกรรม มีอะไรบ้างนั้นไปติดตามกันได้เลยคะ...!!
#การลดกรรม45อย่าง
1. กรรมที่ไม่มีลูก
กรรมจาก การทำร้ายลูกของสัตว์อื่น พรากสัตว์อื่นจากพ่อแม่หรือเคยข่มเหงลูกคนอื่น
ลดกรรม ด้วยการงดกินเนื้อสัตว์ทุกๆ 7 วัน ในทุกๆเดือนทำบุญปล่อยปลาลงน้ำ ปล่อยนกปล่อยกา ทำบุญบริจาคทานที่มูลนิธิสัตว์หรือมูลนิธิเด็กอ่อน
2. เจ็บป่วยบ่อย หรือเป็นโรคร้าย
กรรมจาก เคยทำทารุณกรรมต่อสัตว์...ลดกรรม ด้วยการทำบุญทำทานกับสัตว์อนาถา ให้อาหารให้ความเมตตา ซื้อยาหรือบริจาคเงินที่โรงพยาบาลสงฆ์ ทำบุญปล่อยเต่า งดกินเนื้อสัตว์ตลอดชีวิต
3. ตาบอดหรือเป็นโรคตา
กรรมจาก เคยทำร้ายสัตว์ที่ดวงตา หรือไม่เคยทำบุญเติมน้ำมันตะเกียงในชาติก่อน หรือเคยทำลายไฟฟ้าของวัด ของที่สารธารณะ
ลดกรรม ซื้อโคมไฟ หลอดไฟถวายวัด ถวายเทียนห่อใหญ่ ถวายไฟฉาย เติมน้ำมันตะเกียงทุกวันพร! ะ บริจาคเงินในกล่อง
ซื้อน้ำมันเติมตะเกียงที่วัด
4. ถูกรถเฉี่ยวชน ถูกลูกหลง ถูกสัตว์กัดต่อย
กรรมจาก จากเคยเป็นคนพาลเกะกะเกเร หาเรื่องเดือดร้อนให้ผู้อื่น มักรังแกและสาปแช่งผู้อื่นอยู่เสมอ
ลดกรรม หมั่นพูดดี มีวาจาไพเราะ
5. สูญเสียคนใกล้ชิด
กรรมจาก เคยยิงนกตกปลา
ลดกรรม ทำบุญไถ่ชีวิตโค กระบือ งดกินเนื้อสัตว์อย่างน้อยสัก 1 อย่างชั่วชีวิต หรือกินเจทุกๆ 3 เดือน ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา
6.ถูกนินทา ถูกให้ร้าย
กรรมจาก เคยพูดจาให้เป็นเหตุให้คนอื่นเป็นทุกข์หรือเดือดร้อน
ลดกรรม พิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี พูดดี พูดให้คนอื่นเกิดประโยชน์ พูดให้ผู้อื่นมีความสุข
7. มักเดือดร้อนเพราะไฟ ไฟไหม้บ้าน ไฟดูด
กรรมจาก เคยลบหลู่พระสงฆ์ และศาสนา
ลดกรรม ตักบาตรทุกวันพระ ทำบุญถวายสังฆทานทุกเดือน ฟังเทศน์ฟังธรรมทุกวันพระ หรือทุกๆเดือนในวันพระ ร่วมพิมพ์หนังสือ
ธรรมะแจกจ่ายฟรี
8. ขาดบารมี ไร้ญาติขาดมิตร
กรรมจาก ไม่เคยไปร่วมงานบุญงานศพ
ลดกรรม ร่วมทำบุญงานศพ บริจาคเงิน หรือร่วมด้วยแรงกายช่วยงานอื่นๆในงานศพ เช่นทำอาหาร จัดดอกไม้
9. ตั้งหลักปักฐานไม่ได้ โยกย้ายบ่อย
กรรมจาก ไม่เคยร่วมทำบุญสร้างโบสถ์สร้างวิหาร แก่วัดวาอารามต่างๆ
ลดกรรม ร่วมทำบุญสร้างโบสถ์ สร้างหลังคาวิหาร ร่วมทำบุญฝังลูกนิมิต หมั่นไปไหว้ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ณ เมืองที่ตนอยู่อาศัย
10. มักถูกรังแก ถูกเบียดเบียน
กรรมจาก ไม่เคยบวช หรือทำบุญงานบวช
ลดกรรม บวช ด้วยจิตศรัทธาปวารถาอย่างบริสุทธิ์ไม่มีเจตนาอื่นแ! อบแฝงจะบวช 7 วัน หรือ 15 วัน 1 เดือน 1 พรรษา แล้วแต่
จิตศรัทธา ถ้าเป็นสตรีจะบวชชีพราหมณ์ หรือถือศีล 8 ตามเวลาที่สะดวกและตั้งจิตศรัทธา หรือร่วมทำบุญงานบวชอย่างสม่ำเสมอเท่าที่จะทำได้
11.ไม่มีคนชื่นชมเอ็นดู ชาดเสน่ห์
กรรมจาก ไม่เคยถวายของหอม
ลดกรรม หมั่นทำบุญไหว้พระทุกวันพระ ถวายธูปหอม เทียน ดอกไม้สด พวงมาลัย ทองคำเปลว ประน้ำอบน้ำปรุง ประพฤติดี
ปฏิบัติชอบต่อผู้อื่น คิดดี ทำดี พูดดี ให้ผู้อื่นได้ดี มิให้ร้ายผู้ใด
12. เป็นที่รังเกียจ มีกลิ่นปาก กลิ่นตัว
กรรมจาก ทำติเตียนดูแคลน ผู้ที่ชอบทำบุญทำทาน
ลดกรรม หมั่นทำบุญทำทานอย่างสม่ำเสมอ ฟังเทศน์มหาชาติทุกๆปี ชักชวนผู้อื่นให้ร่วมทำบุญหรือบริจาคทานเป็นการบอกบุญผู้อื่น
พิมพ์หนังสือธรรมะจ่ายแจกฟรี
13. ไปไหนมาไหนลำบาก มีแต่อุปสรรค
กรรมจาก เคยทำลายหนทางสัญจรของวัด หรือของชาวบ้าน หรือทำให้ทางสัญจรสาธารณะได้รับความไม่สะดวก
ลดกรรม บริจาคทรัพย์หรือแรงกายช่วงสร้างสะพาน สร้างทางอันเป็นประโยชน์แก่วัด หรือชุมชนเล็กๆ ช่วยผู้คนยากไร้ให้
ได้มียวดยานพาหนะหรือทางสัญจรที่สะดวก
14. เป็นคนรับใช้เขาร่ำไป
กรรมจาก เคยเนรคุณผู้ที่เคยมีพระคุณแก่ตน
ลดกรรม ตอบแทนผู้มีคุณด้วยความกตัญญู ร่วมทำบุญสร้างพระพุทธรูป พระประธาน ทำทานทั้งกับคนและสัตว์
15. ขัดสน อดมื้อกินมื้อ
กรรมจาก เคยละเว้นการใส่บาตร ละเว้นการให้ทาน เมื่อมีคนยากไร้มาขอทานอาหารและน้ำ
ลดกรรม แบ่งปันอาหาร น้ำ เสื้อผ้า แก่คนยากไร้อนา! ถา แม้ไม่มีเงินก็แบ่งปันสิ่งของตามที่มี ตักบาตรทุกเช้าหรือทุกวันพระ
16. อาภัพคู่ ร้างคู่
กรรมจาก เคยผิดลูกผิดเมียเขา
ลดกรรม บวชพระ หรือบวชชีพราหมณ์ ร่วมทำบุญเป็นเจ้าภาพงานแต่งงานคู่บ่าวสาวที่ยากจน ถวายของเป็นคู่ เช่น แจกันคู่
เชิงเทียนคู่ หมอนคู่ เป็นต้น
17. ได้คู่ที่เลวร้าย ทำร้ายตนหรือทำให้เป็นทุกข์
กรรมจาก เคยข่มขืนเขาในชาติก่อน เคยทุบตีทำร้ายคู่
ลดกรรม บวชพระ หรือบวชชีพราหมณ์ ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา
18. อยู่โดดเดี่ยวยามบั้นปลาย
กรรมจาก เคยจับสัตว์ขัง
ลดกรรม ทำบุญปล่อยปลาลงน้ำ ปล่อยนกปล่อยกา ทำบุญทำทานแก่เด็กอนาถาและสัตว์อนาถา
19. รูปร่างหน้าไม่งดงาม
กรรมจาก ไม่เคยถวายดอกไม้ของหอม
ลดกรรม ถวายพวงมาลัยดอกไม้สด ดอกไม้หอม ทำบุญบริจาคดวงตา บริจาคร่างกายให้โรงพยาบาล
20. มักถูกโกง ถูกเบี้ยวเงิน
กรรมจาก เคยคดโกงผู้อื่น!
ลดกรรม สละทรัพย์บริจาคร่วมการกุศลต่างๆ ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน อุทิศส่วนกุศลแก่เจ้ากรรมนายเวรทุกๆเดือน
21. พิการ ร่างกายไม่สมประกอบ
กรรมจาก เคยทุบตีพ่อแม่ ด่าพ่อแม่ หรือทำร้ายพ่อแม่
ลดกรรม หมั่นทำบุญไหว้พระ ปล่อยนกปล่อยปลา ถือศีล 5 ศีล 8 เจริญภาวนา นั่งวิปัสสนากรรมฐาน
22. มีคดีความ
กรรมจาก เคยพบคนทุกข์ร้อนแล้วไม่ช่วยหรือพยายามหาทางช่วยเหลือ
ลดกรรม หมั่นทำบุญปล่อยนกปล่อยปลา นั่งสมาธิ เจริญวิปัสสนากรรมฐาน ถือศีล 8 ทุกๆ 3 เดือนๆละ 7 วัน
23. ไร้ที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
กรรมจาก ไม่สงเคราะห์คนอนาถา ที่มาขออาหาร ขอชายคาหลบฝน ไม่มีน้ำใจช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก
ลดกรรม ร่วมทำบุญซื้อกระเบี้องหลังคาโบสถ์ หมั่นไปกราบไหว้บู! ชาศาลหลักเมือง ทำบุญทำทานแก่สัตว์พิการหรือสัตว์จรจัด

24. จิตใจขุ่นมัว ดุดัน ขี้โมโห
กรรมจาก มักตะหนี่ในการทำบุญ
ลดกรรม สวดมนต ์ไหว้พระ ทุกวันพระ ฝึกวิปัสสนากรรมฐาน ถือศีล 5 หรือศีล 8 ทุกๆ 3 เดือน บริจาคทาน แบ่งปันเงินทองหรือ
สิ่งของแก่ผู้ตกทุกข์ได้ยาก หรือร่วมทำบุญบริจาคทานกับมูลนิธิสถานสงเคราะห์ และวัดวาอารามต่างๆ
25. ไม่มีชื่อเสียง
กรรมจาก เคยติฉินนินทาทำให้ผู้อื่นเสียหาย
ลดกรรม ร่วมทำบุญสร้างหอระฆัง ร่วมทำบุญหล่อเทียนพรรษา ทำทานกับคนยากไร้ และสัตว์อนาถา
26. ไม่มีวาสนาบารมี
กรรมจาก ไม่เคยนับถือชื่นชมผู้นับถือธรรมมะ
ลดกรรม ทำบุญสร้างพระพุทธรูป ทำทานกับคน
27. มีลูกหลานไม่ดี เกเร ไม่เชื่อฟัง
กรรมจาก ทำแท้ง เคยทำร้ายคนใกล้ชิดมาก่อน และทำร้ายจิตใจครอบครัวในชาติก่อน
ลดกรรม บวชเณร โดยให้ลูกบวชหรือไปร่วมบวช จะทำให้กรรมน้อยลง ปฏิบัติธรรม อุทิศให้ลูกตนเอง
28. เจอแต่คนเอาเปรียบ
กรรมจาก เคยเบียดเบียนเงินพ่อแม่ไว้ในอดีตชาติ เคยโกงคนไว้ในอดีตชาติ ขโมยเงินครอบครัวมาใช้
ลดกรรม หมั่นยึดถือศีล 5 ให้มั่น ไม่ดื่มเหล้า ทำให้ขาดสติ โดนโกงง่าย หมั่นสวดมนต์ อธิษฐานบารมีด้านขอพรให้พบเจอคนดี ๆ
เข้ามาในชีวิต
29. เกิดในสกุลต้อยต่ำ
กรรมจาก โอหัง อวดดี จิตใจคับแคบ
ลดกรรม ร่วมทำบุญสร้างวัด สร้างพระประธาน ทำบุญทำทานกับคนยากไร้ และสัตว์อนาถา พิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี
30. ไร้สง่าราศี ขาดวาสนา
กรรมจาก เคยเมาสุระอาละวาด ระรานผู้อื่น!
ลดกรรม นั่งสมาธิ ฝึกกรรมฐาน ทำทานกับคนอนาถา และสัตว์อนาถา ร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี
31. ไม่เจริญก้าวหน้า จิตใจเป็นทุกข์
กรรมจาก เคยชักจูงคนทำชั่ว
ลดกรรม ถือศีล 8 เป็นเวลา 7 วัน ทุกๆ 3 เดือน หมั่นทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน
32. จิตใจฟุ้งซ่าน เป็นทุกข์
กรรมจาก เคยริษยาผู้อื่น
ลดกรรม ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน ปล่อยปลาลงน้ำ นั่งสมาธิ สวดมนต์บทคาถาพระชินบัญชร
33. ชีวิตตกต่ำ ทำสิ่งใดไม่เจริญ
กรรมจาก เคยทำแท้ง
ลดกรรม ปล่อยปลาลงน้ำทุกๆเดือน จนครบ 9 เดือน หรือ 1 ปีเต็ม ถวายสังฆทาน ทำบุญใส่บาตรเสมอ
34. เป็นเมียน้อย เมียเก็บ
กรรมจาก เคยผิดลูกผิดเมียเขามาก่อน ขืนใจเขาโดยไม่ยินยอม เคยอธิษฐานจิตร่วมกันมาว่ากี่ภพก็ขอให้ได้ใช้ชีวิตคู่ด้วยกัน
ลดกรรม ถวายธงคู่ ธูปคู่ เชิงเทียนคู่ หมอนคู่ อย่างใดก็ได้ อธิษฐานจิตขอให้ชีวิตคู่ที่ดีขึ้น บวชชีพราหมณ์ ปีละ 1 ครั้ง 3 วัน อุทิศให้
เจ้ากรรมนายเวรที่เคยล่วงเกินให้ได้รับกุศลและเปิดทางให้ชีวิตคู่ดีขึ้น ร่วมเป็นเจ้าภาพงานแต่ง เพื่อชีวิตตนจะดีขึ้นและ
สมหวัง สวดมนต์ขอพรทุกวันเกิดด้านความรักให้สมหวังต่อไป ทำบุญสังฆทานสด ในวันเกิดตนเอง เดือนละครั้ง เพื่ออุทิศ
ให้เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติปัจจุบันชาติและวิญญาณที่ตามมาให้ได้รับกุศลและอโหสิกรรม
35. เป็นทุกข์เพราะคนในครอบครัว
กรรมจาก เคยลำเอียง ไร้คุณธรรมในด้านครอบครัวไว้ก่อน เคยเอารัดเอาเปรียบคนในครอบครัวและคนใกล้ชิดไว้ในชาติอดีตและ
ชาติปัจจุบัน เคยทำให้ครอบครัวเขาแตกแยกในอดีตชาติ
ลดกรรม ต้องบวชชีพราหมณ์ เพราะเมื่อเกิดอีกภพชีวิตจะได้ดีมีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะกุศลของการบวช ปฏิบัติธรรมทำให้เจ้ากรรมนายเวร
อโหสิกรรม และตนเองได้พบสิ่งที่มีกุศลมากขึ้น ยึดพรหมวิหาร 4 มี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา จะทำให้ชีวิตมีความเมตตา
และไม่ลำเอียงเอารัดเอาเปรียบคนใกล้ชิด ทำให้วิถีชีวิตมีคนนับถือและพ้นจากความทุกข์ในเรื่องญาติพี่น้องยุ่งเกี่ยวได้
นำพระคู่บ้านคู่เมืองเข้าสักการะที่บ้าน และสวดมนต์ขอพรให้ครอบครัวอยู่เย็นเป็นสุข
36. เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต
กรรมจาก ฆ่าสัตว์ ทรมานสัตว์ ทำร้ายคนไว้ในอดีตชาติและปัจจุบันชาติ
ลดกรรม ตักบาตรอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรในอดีตชาติปัจจุบันชาติ รวมถึงสรรพสัตว์ทั้งหลายให้ได้กุศลและอโหสิกรรมซึ่ง
กันและกัน ปล่อยสัตว์ลงน้ำในวันเกิดตนเอง กรวดน้ำอุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรได้รับและอโหสิกรรม ถวายยาเข้าวัด
หรือช่วยเหลือคนป่วย
37. เป็นมะเร็ง
กรรมจาก รู้เห็นเป็นใจกับการทำแท้ง การทารุณสัตว์ หรือการทำร้ายเบียดเบียนผู้อื่น
ลดกรรม ทำบุญใหญ่อุทิศให้เจ้ากรรมนายเวร และบวชชีพราหมณ์ 1 เดือน เพื่อส่งกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรอโหสิกรรม
ทำบุญสร้างพระพุทธรูป สร้างโบสถ์หรือสร้างศาลาวัด ร่วมพิมพ์หนังสือธรรมะแจกฟรี หมั่นนั่งสมาธิ ฝึกกรรมฐาน
38. ค้าขายขาดทุน ทำงานไม่ก้าวหน้า
กรรมจาก เคยลบหลู่เจ้าที่เจ้าทาง
ลดกรรม หมั่นทำบุญใส่บาตร ถวายสังฆทาน ถวายเครื่องเซ่นสังเวย เจ้าที่-เจ้าทาง หมั่นสวดมนต์บทคาถาพระชินบัญชร
39. ด้อยปัญญา
กรรมจาก ฝักใฝ่อบายมุขในชาติก่อน หรือชักชวนคนไปทำชั่ว ดูแคลนหลักธรรมมะ
ลดกรรม พิมพ์หนังสือธรรมะจ่ายแจก ทำบุญทำทานกับโรงเรียนของเด็กพิการหรือตาม! ูลนิธิต่างๆ
40. ตกงาน
กรรมจาก เคยกลั่นแกล้งผู้อื่นในเรื่องงาน หรือแย่งงานผู้อื่น
ลดกรรม หมั่นทำบุญทำทาน ร่วมงานบุญต่างๆ ปล่อยนกปล่อยปลา
41. ไม่มีโชคลาภ
กรรมจาก ไม่เคยสวดมนต์ไหว้พระ
ลดกรรม หมั่นทำบุญสวดมนต์ไหว้พระ ถวายธูป เทียน ดอกไม้สด พวงมาลัย และทองคำเปลว
42. เรียนไม่จบ การเรียนมีอุปสรรค
กรรมจาก ชาติก่อนปฏิเสธการฟังเทศน์ฟังธรรม
ลดกรรม หมั่นเข้าวัด ร่วมงานบุญต่างๆ ฟังเทศน์ อ่านหนังสือธรรมะ
43. มีอาชีพต้อยต่ำที่ผู้คนดูแคลน
กรรมจาก ชาติก่อนเคยบวชด้วยเจตนาไม่บริสุทธิ์ ไร้ความศรัทธา อาศัยผ้าเหลืองหากิน
ลดกรรม ถือศีล 5 ศีล 8 นั่งสมาธิ ฝึกกรรมฐาน ถวายสังฆทานทุกเดือน หรือทุก 3 เดือน
44. ครอบครัวยากจน
กรรมจาก ชาติก่อนไม่เคยบริจาคทาน
ลดกรรม หมั่นทำบุญด้วยการบริจาคทาน ถ้ามีเงินไม่มากก็บริจาคเป็นสิ่งของ แรงกาย หรือน้ำใจ ต่อผู้ตกทุกข์ได้ยาก เช่น ไปช่วยอ่านหนังสือให้มูลนิธิคนตาบอด
45. เป็นทุกข์เพราะความรัก
กรรมจาก ชาติก่อนเจ้าชู้ หลอกผู้อื่นให้อกหัก....ลดกรรม ประพฤติดีปฏิบัติดีทั้งความคิด กาย วาจา ใจ ร่วมทำบุญงานแต่งงาน ทำสิ่งดีๆให้คนอื่นได้สมรักสมรสกัน
 ไม่ว่าจะกรรมนั้นจะมาจากเหตุอันใด แต่การกระทำกุศล ดังวิธีลดกรรม ย่อมประเสริฐแก่ผู้ปฏิบัติ และคนรวบข้างอย่างแน่นอนคะ...!!
ขอขอบคุณบทความดีๆ จาก.https://www.facebook.com/jirawan.kazaa/posts/772023959541657:1.
ผู้หญิงสีขาว_เมืองดอกบัวงาม

วันอาทิตย์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2558

ภูเขาหิมพานต์

ภูเขาหิมพานต์มีความสูงความกว้างหลายร้อยหลายพันโยชน์ และมียอดเขาถึง 84,000 ยอด ที่เชิงเขามีต้นหว้าใหญ่อยู่ใกล้ฝั่งแม่น้ำสีทานที นัยว่าดอกของต้นหว้านั้นมีลักษณะงาม มีกลิ่นหอม มีผลใหญ่ แถมมีรสหวานอร่อยเหมือนน้ำผึ้ง และที่แปลกไปกว่านั้นยางของผลหว้าเมื่อร่วงหล่นลงมากลายเป็นทองคำสุกปลั่ง ชื่อว่าชมพูนุท
ถัดจากป่าไม้หว้าที่เชิงเขาแล้ว ก็มีป่าไม้มะขามป้อม และป่าสมอ ซึ่งผลไม้ทั้งสองมีรสชาติหวาน ถัดป่าสมอไปมีแม่น้ำ 7 สาย ถัดแม่น้ำไปแล้วมีป่าไม้นารีผลซึ่งมีลักษณะทรวดทรงงดงาม ถัดจากป่าไม้นารีผลก็เป็นแม่น้ำสมุทร และมีป่าไม้อีก 6 ป่า คือ ป่ากุรภะ ป่าโกรภะ ป่ามหาพิเทหะ ป่าตะปันทละ ป่าโสโมโล ป่าไชยเยศ ป่าไม้เหล่านี้เป็นที่อยู่อาศัยบำเพ็ญบุญของผู้ทรงธรรมทั้งหลาย และป่าไม้นี้มีเนื้อทรายจามรีมากมาย

ในป่าหิมพานต์มีสระใหญ่ถึง 7 สระ คือ สระอโนดาต สระกัณณมุณฑะ สระรถการะ สระฉัททันตะ สระกุณาละ สระมัณฑากิณี สระสีหัปปาตะ บรรดาสระใหญ่ทั้ง 7 นั้น สระใหญ่ทั้ง 7 นี้มีความกว้าง ความลึก และมณฑลโดยรอบเท่ากัน สำหรับสระอโนดาต มีเขา 5 เทือกล้อมรอบ คือ เขาสุทัสสนะ เขาจิตรกูฏ เขากาฬกูฏ เขาคันธมาทน์ เขาไกรลาส
ป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาส เป็นถิ่นฐานที่สถิตของผู้มีคุณวิเศษ ดินแดนที่ไกลแสนไกลยากที่มนุษย์ธรรมดาล่วงไปถึงได้

วรรณคดีที่กล่าวถึงป่าหิมพานต์ มักพรรณนาถึงสัตว์หิมพานต์ไว้ด้วย สัตว์หิมพานต์เป็นจินตนาการที่กวี จิตรกร ประติมากรพรรณนาถึงสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์หรือเขาไกรลาส นอกจากปรากฏในวรรณคดี ยังอยู่ในภาพจิตรกรรมและประติมากรรมที่ประดิษฐานไว้ตามวัดวาอารามหรือปราสาทราชวัง

สัตว์เหล่านั้นได้ชื่อว่าเป็นจอมสัตว์ มีศักดินาเป็นใหญ่บ้าง มีเพศพรรณไม่เหมือนสัตว์ในมนุษย์โลกบ้าง และมีการผสมต่างพันธุ์บ้าง ประกอบด้วยเทวดา สัตว์บก สัตว์น้ำ สัตว์อากาศ ซึ่งช่างต่างประดิษฐ์พลิกแพลงทรงเครื่องให้สวยงามเพื่อความเหมาะสมของสภาพป่าหิมพานต์ หรือเขาไกรลาสที่ปรากฏในวรรณคดีไตรภูมิกถา (ไตรภูมิพระร่วง) และรามเกียรติ์ หรือจำแนกตามหนังสือ "ศิลปไทย" โดยอาจารย์ช่วง สเลลานนท์ ท่านแบ่งสัตว์หิมพานต์เป็น 3 ประเภท คือ สัตว์ทวิบาท (สองขา) สัตว์จตุบาท (สี่ขา) และประเภทปลา 

 มีความเชื่อว่าเคยมีพวกสัตว์เทพต่าง ๆ อาศัยอยู่แต่ไม่รู้จะจริงหรือไม่ 


ขอบคุณเด็กดี ดอทคอม

สงบจริงๆคือสงบจากกิเลส

  

ก่อนอื่นจะทำอะไรต้องปรึกษาหรือศึกษาพระธรรมดูเสียก่อนว่า คำนั้นๆหมายความว่าอะไรอย่างสมถะ   ถ้าจะให้เข้าใจถูกต้อง สมถะ โดยศัพท์ภาษาบาลีเมื่อแปลเป็นภาษาไทยแล้ว หมายความว่า สงบเพียงแค่นี้ไม่พอเลย    คนก็ไปตีความอีกว่า   นั่งคนเดียวเงียบๆ    แต่นั่นไม่ใช่เพราะเหตุว่าสงบ ต้องสงบจากอกุศล สงบจากกิเลสจึงจะชื่อว่าสงบจริงๆ ถ้าเราไปตามท้องนาไกลๆ  ไม่มีผู้คนเลย มีต้นตาล  มีต้นข้าว  มีน้ำ  มีฟ้า  แล้วจะบอกว่าที่นั่นสงบ ไม่ได้น่ะ ใจของเราต่างหาก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน ต้องมีสติ มีสัมปชัญญะมีปัญญาที่จะรู้สภาพจิตว่า  ขณะนั้นจิตของเรามีโลภะ  มีความต้องการอะไรหรือเปล่า  มี โทสะ    มีความขุ่นเคืองใจไหม    มีอกุศลธรรมใดๆบ้างหรือเปล่า   มีความคิดนึกซึ่งเป็นอกุศล   เป็นไปในการเบียดเบียนประทุษร้ายบุคคลอื่นหรือเปล่า มีความคิดเรื่องการงานยุ่งๆทั้งวัน  จะทำอย่างนั้น  จะทำอย่างนี้  ขณะนั้นก็ต้องมีปัญญาที่จะรู้ว่า   ขณะนั้นไม่ใช่ สงบจากกิเลส
การนั่งเฉยๆอยู่ในห้อง ก็ไม่สงบจากกิเลส แต่สภาพอย่างหนึ่งซึ่งจะสงบกิเลสได้ก็คือปัญญาเพราะฉะนั้นคำว่าปัญญาในพระพุทธศาสนา บางคนก็อาจจะคิดว่า รู้แล้ว เข้าใจแล้ว แต่ถ้าศึกษาจริงๆ จะรู้ว่า  นั่นปัญญาที่เราคิดเอาเอง  ปัญญาภาษาไทย  ปัญญาในสมุดพก  ปัญญาที่ครูเขียนมาว่า  คนนี้สติปัญญามากน้อย    แต่ว่าไม่ใช่ปัญญาที่พระผู้มีพระภาคทรงแสดงว่า  สภาพนี้คือปัญญา  ถ้าเป็นปัญญาจริงๆ หมายความว่า สิ่งหนึ่งสิ่งใดก็ตามที่กำลังปรากฏในขณะนี้   ปัญญาสามารถเข้าใจถูกต้องในลักษณะที่แท้จริงของสภาพธรรมนั้นได้ นั่นจึงจะชื่อว่า ปัญญาเพราะฉะนั้นทุกคนมีจิตใจ แต่ไม่เคยพิจารณาจิต มีแต่ความต้องการ แม้แต่ได้ยินคำว่า “สมถะ” ก็ยังไม่รู้ว่าอะไร แต่อยากจะทำแล้ว เพราะฉะนั้นความอยากขณะนั้นไม่ใช่ความสงบความอยากมีหลายอย่าง บางคนก็ชอบรูปสวยๆ บางคนก็ชอบฟังเพลงเสียงเพราะๆบางคนก็ชอบกลิ่นน้ำหอม    เพราะฉะนั้นน้ำหอมราคาแพงมาก ตามความนิยม  หรือตามโลภะของเรา ถ้าเราต้องการกลิ่นนี้ แต่ราคาแพงมาก อันนั้นก็เป็นเครื่องวัดโลภะของเราว่า เราต้องการขนาดไหน ต้องการที่จะซื้อ หรือต้องการเพียงได้กลิ่นนิดหน่อยก็พอนี่แสดงให้เห็นว่า โลภะไม่เคยห่างไกลเรา ตั้งแต่เกิด ทางตาต้องการเห็นสิ่งที่สวยงาม ทางหูต้องการเสียงเพราะ ทางจมูกต้องการกลิ่นหอม ทางลิ้นต้องการรสอร่อย  ทางกายต้องการกระทบสัมผัสสิ่งที่สบาย แม้แต่ในห้องนี้ เราก็ต้องการอากาศที่เย็นๆ สบายๆเก้าอี้นุ่มๆ ไม่แข็งเกินไป   นี่ก็เป็นความต้องการทางกาย    ทางใจก็ยังต้องการเรื่องสนุกสนาน ดูทีวี ดูละคร คิดนึกเรื่องนั้นเรื่องนี้นี่แสดงให้เห็นว่า เรามีแต่ความต้องการทางตา ทางหู ทางจมูก ทางลิ้น  ทางกาย ทางใจ แม้แต่ในเรื่องคำ เช่น คำว่า “สงบ” หรือคำว่า “นิพพาน” ยัง ไม่ทันรู้เลยว่า แปลว่าอะไร  ก็อยากจะได้เสียแล้ว  อยากจะทำเสียแล้ว   อยากจะถึงเสียแล้ว  แล้วอย่างนี้จะเป็นปัญญาได้อย่างไร
                                                 http://goo.gl/6hW61q 

  
                                                                 

 ขอบอบคุณ
ที่มาของบทความ...http://www.dhammahome.com/audio/topic7958.html
                                                   

พญานาค

พญานาค คืออะไร พญานาค เป็นสัตว์กึ่งเทพ กึ่งมนุษย์ มีฤทธิ์อำนาจสูงมาก  จัดเข้าจำพวกโอปปาติกะโยนิ คือ ผุดเกิดขึ้นทันทีเหมือนเทวดา มีร่าง เป็นทิพย์ สามารถเนรมิตร่างได้ทุกรูปแบบในพริบตา  พญานาค อาศัยอยู่ในสวรรค์ ใต้น้ำ หรือบาดาล  ในหนังสือไตรภูมิพระร่วง กล่าวว่าวังบาดาลที่พญานาคอาศัยอยู่นั้น ลึกลงไปใต้ดิน ๑ โยชน์ หรือ ๑๖ กิโลเมตร มีปราสาทราชวัง ที่วิจิตพิสดารไม่แพ้สวรรค์  มีอยู่ถึง ๗ ชั้น เรียงซ้อน ๆ กัน ชั้นสูง ๆ ก็จะมีความสุขเหมือนสวรรค์ 




พญานาค มีจริงหรือไม่
ในเมื่อมีเมืองมนุษย์ หรือโลกมนุษย์ โลกสวรรค์ หรือเมืองสวรรค์ ก็ต้องมีเมืองบาดาล (เมืองพญานาค) 

ในสมัยพระพุทธกาล มีพญานาคตนหนึ่ง แปลงกายมานั่งฟังธรรมเทศนาของพระพุทธเจ้า แล้วเกิดศรัทรา จึงได้ขอบวชเป็นพระภิกษุ แต่อยู่มาวันหนึ่ง เข้านอนในตอนกลางวัน หลังจากหลับแล้วมนต์ได้เสื่อมกลายเป็นงูใหญ่ จนพระภิกษุรูปอื่นไปเห็นเข้า ต่อมาพระพุทธเจ้าทรงทราบ จึงให้พระภิกษุนาคนั้นสึกออกไป เพราะเป็นสัตว์เดรัจฉาน นาคตนนั้นผิดหวังมาก จึงขอถวายคำว่า นาค ไว้ใช้เรียกผู้ที่เข้ามาขอบวชในพระพุทธศาสนา เพื่อเป็นอนุสรณ์ในความศรัทราของตน 
ในประสบการณ์จริงของพระธุดงค์กรรมฐานอันยืนยันด้วยคุณอริยะธรรม อาทิ        
หลวงปู่ดี ปฉันโน  - ผจญฤทธิ์พญานาค 
หลวงปู่ชอบ        - พบพญานาคจำแลง 
หลวงปู่มั่น ภูริทตฺโต – โปรดพญานาคลำน้ำโขง 
หลวงปู่คำคะนิง  -   บุกบาดาลใต้ลำโขง 
หลวงปู่แหวน  สุจิณโณ  - ถูกพญานาคกล่าวตำหนิโทษ 
หลวงปู่ดามัญ วัดหว้าเอน อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี – สนทนาธรรมกับพญานาคราช ที่วังนาคินทร์ เมืองสุวรรณนาคาเทพนคร วัดหว้าเอน อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี 
แม่จันทร์ทา  ฤกษ์ยาม – ถอดจิตเยือนแดนนาคา 

และยังมีพระอริยะสงฆ์อีกหลายรูปพบพญานาคมาแล้ว 
ท่านที่ต้องการศึกษาเรื่องราวลึกลับอย่างนี้ด้วยตัวท่านเอง ท่านต้องครองศีล 5 เป็นอย่างน้อย ปฏิบัติสมาธิภาวนา สวดมนต์สม่ำเสมอ มีจิตใจบริสุทธิ์ ดีงาน และศรัทราในพระพุทธศาสนา เมื่อท่านปฏิบัติสมาธิจนชำนาญในฌานแล้ว ท่านจะรู้ในสิ่งที่ท่านอยากจะรู้ได้ด้วยตัวท่านเอง (ปัตจัตตัง) ไม่ต้องไปถามคนอื่นอีก ว่าพญานาคมีจริงหรือ? 

นานาจิตตัง นะครับ


โดย Google

เป็นเปรตเพราะทุบพระพุทธรูป


ที่ถ้ำเชียงดาวนี้ พระแหวนได้พบเปรตตนหนึ่ง ซึ่งท่านได้กล่าวไว้ว่า 
“ ในระหว่างพรรษา วันหนึ่งประมาณ ๕ โมงเย็น ท่านกำลังเดินจงกรมอยู่ ก็มีเสียงดังโครมครามเหมือนกิ่งไม้ใหญ่หักลงมา จึงเหลียวไปดู กลายเป็นสัตว์ร่างใหญ่ร่างหนึ่งเอาไม้เกาะอยู่บนกิ่ง ห้อยหัวลงมา มีผมยาวรุงรัง เสียงร้องโหยหวน ท่านบอกว่าๆไม่นึกกลัว และไม่ได้สนใจ ยังคงเดินจงกรมต่อไป เมื่อร่างนั้นเห็นพระไม่สนใจ ก็หนีหายไปสองสามวันต่อมาก็ปรากฏอีก แต่พระก็เดินจงกรมโดยไม่สนใจ หลังจากนั้นจึงมาปรากฏตัวให้เห็นทุกเย็น แต่ไม่ได้เข้ามาใกล้พระ คงแสดงอาการเหมือนเดิมทุกครั้ง
วัน หนึ่ง ท่านได้กำหนดจิตถามไปว่า ที่มานั้นเขาต้องการอะไร ทีแรกเขาทำเฉยเหมือนไม่เข้าใจ จึงกำหนดจิตถามอีก เขาจึงบอกว่าต้องการมาขอส่วนบุญกำหนดจิตถามต่อไปว่า เขาเคยทำกรรมอะไรมา จึงต้องทุกข์ทรมานอยู่ในสภาพเช่นนี้ เปรต เล่าถึงบุพกรรมของเขาว่า เขาเคยเป็นคนที่เชียงดาวนี้ มีอาชีพลักขโมยและปล้นเขากิน ก่อนไปปล้น เขาจะเอาดอกไม้ธูปเทียนไปขอพร และขอความคุ้มครองกับพระพุทธรูปองค์หนึ่งในถ้ำเอาทำอย่างนั้นทุกครั้ง และก็แคล้วคลาดตลอดมา
อยู่มาวันหนึ่ง เขาไปขอพรพระพุทธรูปแล้วออกไปปล้นเช่นเคยบังเอิญเจ้าของรู้ตัวก่อน จึงเตรียมการต่อสู้ เขาถูกเจ้าของบ้านฟันบาดเจ็บสาหัส จึงหนีตายเอาตัวรอดมาได้ ด้วย ความโมโหว่าพระไม่คุ้มครอง เขาจึงกลับไปที่ถ้ำแล้วเอาขวานทุบพระพุทธรูปจนคอหัก ขณะเดียวกันก็ยังคุมแค้นอยู่ ตั้งใจว่าบาดเจ็บหายแล้วจะกลับไปแก้แค้นข้าวของบ้านให้ได้ เผอิญบาดแผลที่ถูกฟันนั้นสาหัสมาก เขาจึงต้องตายในเวลาต่อมา วิญญาณเขาจึงต้องมาเป็นเปรตทนทุกข์ทรมานอยู่ที่เชียงดาวนี้ จึงได้พยายามมาขอส่วนบุญเพื่อให้พระท่านช่วยแผ่เมตตาให้จะได้คลายทุกข์ทรมานลงไปได้บ้างท่านเล่าว่า บุพกรรม ของเปรตตนนั้นหนักมากเหลือเกินท่านได้รวบรวมจิตอุทิศบุญกุศลไปให้ ตั้งแต่นั้นมาร่างนั้นก็ไม่ปรากฏให้เห็นอีกแต่จะได้รับบุญกุศลเพียงใดขึ้น กับตัวเขาเอง ท่านบอก ว่า เปรตตนนั้นเป็นเปรตสมัยใหม่เพราะใช้คำแทนตัวเองว่า “ผม” แต่เปรตตนอื่นๆ ที่หลวงปู่เคยพบมาจะใช้คำแทนตัวเองว่า “เรา” หรือ “ข้าพเจ้า” จึงนับว่าเปรตตนนี้เป็นเปรตสมัยใหม่
บรรดา สัตว์ทั้งหลายนั้น เมื่อมีทุกข์มาถึงตัว มักจะไม่เห็นคุณของพระศาสนา มัวเมาประมาท ปล่อยกายปล่อยใจให้ประพฤติทุจริต ผิดศีลธรรมอยู่เป็นนิสัยเห็นผิดเป็นถูก เห็นกงจักรเป็นดอกบัว ต่อเมื่อได้รับทุกข์เข้า ที่พึ่งไม่มี นั่นแหละจึงได้คิดถึง พระ คิดถึงศาสนา แต่เวลาที่สายไปเสียแล้ว เรื่องความดีนั้นเราต้องทำอยู่เสมอ ให้เป็นที่อยู่ของจิตเป็นอารมณ์ของจิต ให้เป็นมรรคคือทางดำเนินไปของจิตมันจึงจะเห็นผลของความดี
ไม่ใช่เวลาใกล้ตายจึงนิมนต์พระไปให้ศีล ให้ไปบอก พุทโธ หรือตายไปแล้วญาติจึงเคาะโลงบอกให้รับศีล เช่นนี้เป็นการกระทำที่ผิดหมด
เหตุเพราะว่า คน เจ็บนั้นจิตมัวติดอยู่กับเวทนาไฉนจะมาสนใจใยดีศีลได้ เว้นแต่ผู้ที่มารักษาศีลมาเป็นปกติเท่านั้นจึงจะสามารถระลึกศีลของตัวได้ เพราะตนเองเคยทำมาจนเป็นอารมณ์ของจิตแล้วเท่านั้น
แต่ส่วนมาก พอใกล้ตายแล้ว จึงมีผู้เตือนให้รักษาศีลยิ่งคนตายแล้วยิ่งไม่ต้องพูดถึง เพราะคนตายนั้นร่างกายกับจิตใจไม่รับรู้ใดๆแล้วแต่ที่ทำมาก็ยังถือว่าเป็นเรื่องดี
ตัวอย่างเช่น พระเทวทัตทำกรรมมาจนสุดท้ายถูกแผ่นดินสูบ เมื่อร่างลงไปถึงคาง จึงระลึกถึงความดีของพระพุทธเจ้าได้แล้วขอถวายคางเป็นพุทธบูชาระ เทวทัตยังมีสติระลึกได้ จึงพอมีผลดีอยู่บ้างในอนาคตแม้เปรตตนนั้นก็เหมือนกัน ตายไปแล้วจึงสำนึกได้มาขอส่วนบุญเมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่เคยทำลายแม้กระทั่ง พระพุทธรูปที่ตนเคารพนับถือ
" การที่พระแผ่เมตตาให้ เขาจะได้รับหรือเปล่าก็ไม่รู้ สู้เราทำเองไม่ได้ เราทำให้ตัวเราเอง จะได้มากน้อยเท่าไรก็มีความปีติเอิบอิ่มมากเท่านั้น” 
จากหนังสือ ชีวประวัติ : ประสบการณ์ หลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ อริยสงฆ์ แห่งวัดดอยแม่ปั๋ง มหานครเชียงใหม่ หน้าที่ ๒๔๕
                                                          

ครุกรรม - กรรมหนักทั้งที่เป็นกุศลและอกุศล ในฝ่ายกุศลได้แก่ฌานสมาบัติ ในฝ่ายอกุศลได้แก่อนันตริยกรรม  กรรมนี้ให้ผลก่อนกรรมอื่นเหมือนคนอยู่บนที่สูงเอาวัตถุต่าง ๆ ทิ้งลงมาอย่างไหนหนักที่สุด อย่างนั่นถึงพื้นก่อน


วันพฤหัสบดีที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2558

สุดยอดประโยชน์จากขนุน ที่คุณต้องไม่เคยรู้มาก่อน

สุดยอดประโยชน์จากขนุน ที่คุณต้

โดย กัลย์ธีรา
อรัญยกานนท์
สุดยอดประโยชน์จากขนุน
ขนุน เป็นผลไม้รับประทานได้ทั้งผลดิบที่เอามาแกง และผลสุกที่ทานเนื้อ รวมถึงเม็ดขนุนก็นำมาต้มทานหรือเป็นวัตถุดิบในแกงต่าง ๆ ด้วย  เนื้อขนุนเมื่อสุกจะมีกลิ่นหอม เนื้อหวานกรอบทานอร่อย เป็นผลไม้จากต่างประเทศที่ได้ฉายาว่าเจ้าแห่งผลไม้ที่อุดมไปด้วยมีวิตามิน แร่ธาตุ สารอาหาร คารโบไฮเดรต  เส้นใย ไขมัน โปรตีน ไขมันอิ่มตัวแต่ไม่มีคอเลสเตอรอล 




แล้วรู้หรือไม่.... นอกจากจะทานเพื่อความอร่อยแล้วขนุนยังมีประโยชน์ทั้งบำรุงร่างกายและป้องกันและลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย มาดูสุดยอดประโยชน์ของผลไม้อย่างขนุนกันเลย
1. ลดการเกิดริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้า
สำหรับผู้ที่เริ่มมีริ้วรอยบนใบหน้าลองนำเม็ดขนุนจุ่มนมเย็นและนำมาคลึงบนหน้าเบาๆ วิธีนี้จะช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้าได้อย่างดี (ลองทำต่อเนื่องอย่างน้อย 6 สัปดาห์)
2. ลดอาการท้องผูก 
สรรพคุณของเม็ดขนุนใช้เป็นยาระบายอ่อน ๆ ได้ เนื่องจากอุดมไปด้วยเส้นใยที่จะเข้าไปล้างพิษ
3. ช่วยให้ผิวเนียนใส
นำเม็ดแห้งของขนุนมาบดให้ละเอียดกับนมและน้ำผึ้ง ใช้มาร์กหน้าทิ้งไว้สักครู่แล้วล้างออก
4. โปรตีนสูง
เม็ดขนุนมีโปรตีนสูง สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนักลองเปลี่ยนจากกินถั่วมากินเม็ดขนุน (ต้ม) ก็ช่วยได้
5. ช่วยให้ผมสวยสุขภาพดี
ทานเม็ดขนุนสามารถช่วยในการไหลเวียนของเลือด เป็นผลดีกับผมช่วยให้เส้นผมยาวเร็วขึ้นอีกด้วย
6. มีวิตามินเอ
เม็ดขนุนเป็นแหล่งรวมวิตามินที่ดีสำหรับเส้นผม ป้องกันผมไม่ให้แห้งกร้านและเปราะบาง
7. สร้างภูมิคุ้มกัน
เป็นแหล่งวิตามินซีและมีสารต้านอนุมูลอิสระ สามารถสร้างระบบคุ้มกันให้แข็งแรงปกป้องอาการป่วยเล็กๆ น้อยๆ เช่น ไอ ไข้หวัด และไข้หวัดใหญ่
8. ให้พลังงาน
ขนุนอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรต แคลอรี่รวมไปถึงน้ำตาลฟรุกโตส เป็นผลไม้ที่ไม่มีคอเรสเตอรอล กินได้ปลอดภัยสุขภาพดีชัวร์
9. ปกป้องการเกิดโรคมะเร็ง
ขนุนมีสารต้านอนุมูลอิสระและสารอาหารที่สามารถป้องกันจากโรคมะเร็งได้ และป้องกันมะเร็งในช่องปาก
10. รักษาความดันโลหิต
ขนุนมีโพแทสเซียมที่ช่วยลดระดับความดันโลหิตสูงและบำรุงหัวใจ  




11. ช่วยปรับการย่อยอาหารให้ดีขึ้น
ขนุนอุดมไปด้วยเส้นใยอาหารที่เหมือนเป็นตัวช่วยหรือยาระบาย ช่วยย่อยอาหารและป้องกันอาการท้องผูก
12. ป้องกันการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่
ขนุนมี high in dietary fats จึงสามารถช่วยลดผลกระทบที่เกิดจากสารพิษในลำใส่ใหญ่และป้องกันมะเร็งที่อาจะเกิดขึ้นได้ นอกจากนั้นสารต้านอนุมูลอิสระจะช่วยป้องกันริ้วร้อยที่เกิดจากวัยและความเสื่อมสภาพของเนื้อเยื่อและอวัยวะของร่างกาย หรือที่เราเรียกว่า โรคเสื่อมนั่นเอง
13. บำรุงสายตา 
เนื้อขนุนมีวิตามินและสารอาหารที่สำคัญต่อดวงตา และมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยป้องกันต้อกระจกและประสาทตาเสื่อม 
14. ดีต่อผิวลดริ้วรอย
ปัจจัยทั้งเรื่องอายุที่เพิ่มขึ้นและวัยหมดประจำเดือน รังสียูวี หรือมลพิษต่างๆ ที่ทำให้ร่างกายดูแก่ก่อนวัย ขนุนมีสารต้านอนุมูลอิสระช่วยชะลอวัยและลดริ้วรอย
15. โรคหอบหืด
บรรเทาอาการหอบของคนที่เป็นโรคหอบหืดได้ ปัจจุบันมีผู้เป็นโรคหอบหืดหรือโรคที่เกี่ยวกับทางเดินหายใจจำนวนไม่น้อย 
16. เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง 
ขนุนอุดมไปด้วยแมกนีเซียมสร้างเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟัน นอกจากนี้ยังสามารถช่วยป้องกันโรคกระดูกพรุน ขนุนมีโพแทสเซียมจะเข้าไปช่วยลดการสูญเสียแคลเซียมในไตและเพิ่มความหนาแน่นของกระดูก
17. ห่างไกลโรคโลหิตจาง 
ขนุนเต็มไปด้วยวิตามิน เอ ซี อี และเค มีไนอาซิน วิตามิน บี6 โฟเลต กรด pantothenic ทองแดงแมงกานีสและแมกนีเซียมที่จำเป็นสำหรับการสร้างเม็ดเลือด นอกจากสามารถดูดซึมธาตุเหล็กแล้วยังสามารถป้องกันโรคโลหิตจางได้ด้วย
18. บรรเทาอาการหวัด
เนื่องจากอุดมด้วยวิตามินซีจึงสามารถช่วยป้องกันอาการหวัดและการติดเชื้อได้ เพียงคุณรับประทานขนุน 5 - 6 ชิ้นคุณก็จะได้รับทั้งสารต้านอนุมูลอิสระและการเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
19. ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด
ระดับน้ำตาลในเลือดสูงอาจเกิดจากการขาดแมงกานีส โดยในขนุนมีแมงกานีส (จากข้อ17) จึงช่วยลดหรือควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้
20. ป้องกันการสูญเสียมวลกระดูก
ขนุนอุดมไปด้วยแมกนีเซียมที่ช่วยเสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรง พบว่าคนที่ได้รับแมกนีเซียมและโพแทสเซียม
จะมีมวลกระดูกสูงและกระดูกแข็งแรง ถ้าสงสัยว่ามวลกระดูกตรงนี้มีผลต่อร่างกายอย่างไร ลองนึกถึงคนที่มีมวลกระดูกน้อย ๆ พออายุมากขึ้นกระดูกสันหลังจะสึกกร่อนทีละนิด ทำให้หลังค่อมหรือดูตัวเตี้ยลงนั่นเอง ส่วนคนที่อายุยังน้อยเมื่อเกิดอุบัติเหตุอาจจะส่งผลให้กระดูกหักง่ายนั่นเองค่ะ
21. ช่วยให้ต่อมไทรอยด์มีสุขภาพดี
คอปเปอร์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับขบวนการเมตาบอลิซึมของต่อมไทรอยด์โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับการดูดซึมและการผลิตฮอร์โมน ซึ่งขนุนก็เป็นตัวตอบโจทย์ได้ดีเลยทีเดียวเพราะเต็มไปด้วยแร่ธาตุที่มีประสิทธิภาพต่อกระบวนการดังกล่าวและทำให้อัตราการเผาผลาญเป็นไปด้วยดีต่อสุขภาพ
23. ป้องกันโรคตาบอดกลางคืน
ขนุนเป็นประโยชน์ต่อดวงตาอย่างมากและอุดมไปด้วยวิตามินเอที่ช่วยป้องกันไม่ให้ตาบอดกลางคืนได้
*** อาการตาบอดกลางคืน คือ ผู้ที่มองเห็นภาพวัตถุในที่ที่่มีแสงสลัวในที่มึดไม่ชัดเจนในช่วงแรก ก่อนที่จะปรับตาเพื่อให้เห็นชัดจะช้ากว่าปกติหรือเรียกว่า Slow dark adaptation
24.  ลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ
ผลขนุนยังมีวิตามิน บี6 ที่จะช่วยลดระดับโฮโมซิสเตอีนในเลือด ทำให้หัวใจแข็งแรง
25. ช่วยสมานแผน
ขนุนมีคุณสมบัติในการสมานแผลที่น่าทึ่ง นอกจากนี้ยังช่วยบรรเทาอาการผิดปกติอื่นๆในระบบทางเดินอาหารด้วย
เห็นแบบนี้แล้วคงต้องหาขนุนมาทานกันแล้วใช่ไหมคะ  เดี๋ยวนี้สะดวกสบายกว่าเมื่อก่อนมาก เนื่องจากพ่อค้าแม่ค้าใจดีแกะเนื้อขาย เราสามารถมองเห็นได้เลยว่าเนื้อหนาเนื้อบาง สีอ่อนแก่เลือกได้ตามชอบ คุณค่าทางอาหารราคาไม่แพงแบบนี้ชาว Lively ห้ามพลาดนะคะ ;)

ขอบคุณที่มา : healthbeckon.com

ipoint คืออะไร

 IPOINT คืออะไร?
 IPOINT คือบริษัทของคนไทย ที่พัฒนา IPOINT Business application (ไอพ้อย แอพพลิคชั่น) ที่สามารถดาวน์โหลดได้ฟรี ที่ App store และ Play store ใช้งานได้หลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น smart phone, ipad, tablet หรือใช้ผ่านคอมพิวเตอร์ บริษัท IPOINT สร้างแอพฯ ขึ้นมาเพื่อให้แอพฯตัวนี้ เป็นตัวกลางในการซื้อ-ขายสินค้า หรือบริการต่างๆ อีกทั้งสามารถชำระค่าสินค้าได้ มีลักษณะคล้ายๆ บัตรเดบิต






โพสต์แนะนำ

โหย่งเหิง สรรพคุณช่วยบำบัดเบาหวาน ความดันโลหิต สุดยอดยาบำรุงร่างกาย ต้านโรคร้าย เบาหวาน ความดัน เกาท์

โหย่งเหิง-Yongherng-ขวดเล็ก โหย่งเหิง สรรพคุณช่วยบำบัดเบาหวาน ความดันโลหิต สุดยอดยาบำรุงร่างกาย ต้านโรคร้าย เบาหวาน ความดัน เกาท์ โหย่ง...