ปัญหา คนที่ปราศจากโลภะ โทสะ โมหะแล้ว กระทำกรรมจะถือว่าเป็นกรรมหรือไม่ ?
พุทธดำรัสตอบ “ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย กรรมที่กระทำด้วย อโลภะ.... อโทสะ.... อโมหะ.... เกิดแต่ อโลภะ.... อโทสะ.... อโมหะ.... มี อโลภะ.... อโทสะ.... อโมหะ.... เป็นแดนเกิดเมื่อโลภะ.... โทสะ.... โมหะ สิ้นไปแล้ว กรรมนั้นก็เป็นอันละแล้ว มีมูลรากที่ถอนขึ้นแล้ว ทำให้เหมือนตาลยอดด้วน ทำให้เป็นสิ่งที่ไม่มี ทำให้เป็นสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไปไม่ได้อีกแน่นอน... เปรียบเหมือนบุรุษพึงเอาไฟเผาเมล็ดพืชที่ไม่แตกหักเน่าเปื่อย.... ครั้นแล้วก็ทำให้เป็นผล แล้วโปรยไปตามลมพายุ หรือลอยเสียในแม่น้ำที่มีกระแสไหลเชี่ยว พึงเป็นพืชที่ถูกถอนรากขึ้นทำให้เหมือนตาลยอดด้วน ทำให้ไม่มี ไม่เกิดอีกต่อไปเป็นธรรมดา...”
นิพพานสูตร ติก. อํ. (๔๗๓)
ตบ. ๒๐ : ๑๗๒-๑๗๓ ตท. ๒๐ : ๑๕๓-๑๕๔
ตอ. G.S. ๑ : ๑๑๘-๑๑๙
กิเลสกาม - กิเลสเป็นเหตุใคร่, กิเลสที่ทำให้อยาก, เจตสิกอันเศร้าหมอง ชักให้ใคร่ ให้รัก ให้อยากได้ ได้แก่ราคะ โลภะ อิจฉา (อยากได้) เป็นต้น
เครดิตบทความจาก/ขอขอบคุณ
และ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น